ปุ๋ยไนโตรเจนเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตทางการเกษตร ส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืช การใช้ปุ๋ยไนโตรเจนอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มผลผลิตของพืชเท่านั้น แต่ยังช่วยลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมและลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตรอีกด้วย
พัฒนาแผนการใส่ปุ๋ยอย่างเป็นวิทยาศาสตร์และสมเหตุสมผลโดยพิจารณาจากความต้องการที่แท้จริงของดินและพืชผล กำหนดปริมาณปุ๋ยไนโตรเจนที่เหมาะสมที่จะใช้โดยผ่านการทดสอบดินและความต้องการปุ๋ยพืชผลเพื่อหลีกเลี่ยงมลภาวะทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใส่ปุ๋ยมากเกินไป
กระจายปุ๋ยไนโตรเจนอย่างสมเหตุสมผลในแต่ละช่วงการเจริญเติบโตของพืช โดยเฉพาะการใส่ปุ๋ยหน้าดินในช่วงการเจริญเติบโตที่สำคัญ การเพิ่มสัดส่วนและความถี่ในการใส่ปุ๋ยหน้าดินจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนและเพิ่มผลผลิตของพืช
การใช้ปุ๋ยไนโตรเจนอย่างล้ำลึกสามารถลดการระเหยและการสูญเสียไนโตรเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับปรุงอัตราการดูดซึม ใช้วิธีการทางกลหรือด้วยมือเพื่อฝังปุ๋ยไนโตรเจนลงในดินเพื่อให้แน่ใจว่าปุ๋ยสามารถเข้าถึงระบบรากได้โดยตรงและปรับปรุงประสิทธิภาพของปุ๋ย
การเลือกปุ๋ยไนโตรเจนปลดปล่อยสารควบคุม เช่น ปุ๋ยปลดปล่อยช้าและปุ๋ยเสถียร จะช่วยยืดวงจรการปลดปล่อยของปุ๋ยไนโตรเจน ลดการสูญเสียไนโตรเจน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ย
ปุ๋ยอินทรีย์ไม่เพียงแต่ให้สารอาหารหลากหลาย เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ฯลฯ เท่านั้น แต่ยังปรับปรุงโครงสร้างของดินและเพิ่มความสามารถในการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินอีกด้วย เมื่อใช้ร่วมกับปุ๋ยไนโตรเจน จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้เทคโนโลยีการเกษตรขั้นสูง เช่น การใส่ปุ๋ยแม่นยำและการให้น้ำหยด สามารถปรับปรุงอัตราการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนและลดการสูญเสียปุ๋ยได้ ด้วยความช่วยเหลือของเครื่องจักรการเกษตรและเทคโนโลยีอัตโนมัติ การบริหารจัดการเกษตรแม่นยำจึงสามารถบรรลุผลได้
การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนถือเป็นประเด็นสำคัญในการพัฒนาเกษตรกรรมสมัยใหม่ โดยการใช้ปุ๋ยทางวิทยาศาสตร์ การใส่ปุ๋ยในเวลาที่เหมาะสม การใช้ปุ๋ยไนโตรเจนอย่างล้ำลึก การใช้ปุ๋ยที่มีการสูญเสียน้อย การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่เพิ่มขึ้น และการนำเทคโนโลยีการเกษตรขั้นสูงมาใช้ จะทำให้อัตราการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และสามารถส่งเสริมการพัฒนาเกษตรกรรมที่ยั่งยืนได้