ปุ๋ยแมกนีเซียมซัลไฟด์เป็นปุ๋ยที่มีประสิทธิภาพสูง จึงมีข้อดีหลายประการ และสามารถให้ธาตุแมกนีเซียมและกำมะถันที่จำเป็นสำหรับพืชได้ ปุ๋ยชนิดนี้มีการใช้งานที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ยอย่างมาก
ส่วนประกอบหลักของปุ๋ยแมกนีเซียมซัลไฟด์ ได้แก่ แมกนีเซียมออกไซด์ (MgO) ทั้งหมด 26-27% และกำมะถัน 16-20% ซึ่งแมกนีเซียมออกไซด์ที่ละลายน้ำได้ (WS MgO) คิดเป็น 20% ปริมาณความชื้นของผลิตภัณฑ์ไม่เกิน 5% และขนาดอนุภาคอยู่ที่ 2.0-5.0 มม. ทำให้ละลายได้ดีและกระจายตัวได้ดีระหว่างการใช้งาน
ปุ๋ยแมกนีเซียมซัลไฟด์มีข้อได้เปรียบที่สำคัญดังต่อไปนี้:
ปริมาณแมกนีเซียมออกไซด์ (MgO) ทั้งหมดในปุ๋ยแมกนีเซียมซัลไฟด์อยู่ที่ 26-27% ปริมาณกำมะถันอยู่ที่ 16-20% และแมกนีเซียมออกไซด์ที่ละลายน้ำได้ (WS MgO) คิดเป็น 20% ช่วยให้พืชได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน
ปุ๋ยแมกนีเซียมซัลไฟด์มีลักษณะเป็นอนุภาคที่สม่ำเสมอ (ขนาดอนุภาค 2.0-5.0 มม.) และมีความชื้นต่ำ (ไม่เกิน 5%) สามารถละลายได้อย่างรวดเร็วและกระจายสม่ำเสมอระหว่างการใช้
แมกนีเซียมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสังเคราะห์แสงของพืช แมกนีเซียมในปุ๋ยกำมะถันช่วยปรับปรุงการผลิตคลอโรฟิลล์และประสิทธิภาพในการสังเคราะห์แสง จึงส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช
กำมะถันช่วยในการสังเคราะห์โปรตีน เพิ่มความต้านทานโรคพืช และปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของพืชผล
ปุ๋ยแมกนีเซียมซัลไฟด์สามารถปล่อยสารอาหารได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ มอบสารอาหารให้กับพืชผลได้ในระยะยาว และให้ผลผลิตพืชที่สูงและมีเสถียรภาพ
ปุ๋ยแมกนีเซียมซัลไฟด์เหมาะสำหรับความต้องการการผลิตทางการเกษตรประเภทต่อไปนี้:
โดยสรุป ปุ๋ยแมกนีเซียมซัลไฟด์ได้รับความนิยมจากผู้ผลิตทางการเกษตรส่วนใหญ่ เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการให้สารอาหาร ละลายน้ำได้ดีและกระจายตัวได้ดี และมีหน้าที่หลายอย่างในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชอย่างมีสุขภาพดี การใช้ปุ๋ยแมกนีเซียมซัลไฟด์ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มผลผลิตของพืชเท่านั้น แต่ยังปรับปรุงคุณภาพพืชอีกด้วย ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตทางการเกษตรที่มีความเข้มข้นปานกลางและสูง และตลาดสารเคมีทางการเกษตรต่างๆ