การจัดเก็บปุ๋ยไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในสถานที่ทำงานอีกด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าปุ๋ยจะไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมหรือเกิดอุบัติเหตุด้านความปลอดภัยระหว่างการจัดเก็บ จำเป็นต้องจัดเก็บและดูแลอย่างดี
ประการแรก ควรเก็บปุ๋ยไว้ในที่ปิดและปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ห่างจากแสงแดดและฝน เพื่อลดความเสี่ยงในการโจรกรรมและเสื่อมสภาพ พื้นที่จัดเก็บต้องได้รับการจัดการอย่างดี ต้องกำจัดปุ๋ยที่กระจัดกระจายเป็นประจำ และต้องรักษาผนัง พื้น และอุปกรณ์ให้สะอาด นอกจากนี้ ต้องป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ทางกลและไฟฟ้ารั่วไหลจากเชื้อเพลิง เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะไม่สัมผัสกับปุ๋ย ควรจัดการปุ๋ยด้วยความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อบรรจุภัณฑ์ จึงรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้
การจัดเก็บในอาคารเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรับรองความปลอดภัยของปุ๋ย ปุ๋ยควรจัดเก็บในอาคารชั้นเดียวที่สร้างด้วยวัสดุที่ไม่ติดไฟ เช่น คอนกรีต อิฐ เหล็ก หรือยางมะตอย อาคารทั้งหมดจะต้องมีการระบายอากาศที่เพียงพอเพื่อช่วยระบายความร้อนและควันได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เกิดไฟไหม้หรือผลิตภัณฑ์สลายตัว ต่อไปนี้เป็นข้อกำหนดเฉพาะบางประการสำหรับการจัดเก็บปุ๋ยในอาคาร:
พื้นผิวของพื้นที่จัดเก็บควรเรียบและแห้งไม่มีหลุม เพื่อป้องกันไม่ให้ปุ๋ยสัมผัสกับพื้นดินเปียกโดยตรง ควรวางปุ๋ยบรรจุถุงบนผ้าใบ แต่ไม่แนะนำให้ใช้พาเลท นอกจากนี้ ความสูงในการซ้อนปุ๋ยบรรจุถุงไม่ควรเกิน 35 ชั้น การซ้อนสูงเกินไปจะส่งผลต่อคุณภาพของปุ๋ยที่ด้านล่างและเพิ่มความเสี่ยงที่กองปุ๋ยจะพังทลาย ดังนั้น การควบคุมความสูงในการซ้อนจึงมีความสำคัญมาก
สถานที่จัดเก็บปุ๋ยควรอยู่ห่างจากชายคา คาน ผนัง ฯลฯ ของอาคารอย่างน้อย 1 เมตร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ควรจัดเก็บปุ๋ยยูเรียใกล้กับปุ๋ยผสม หากต้องจัดเก็บในคลังสินค้าเดียวกัน จะต้องแยกเก็บปุ๋ยทั้งสองชนิดอย่างเหมาะสม
หากปฏิบัติตามแนวทางการจัดเก็บปุ๋ยข้างต้น คุณไม่เพียงแต่จะรับประกันคุณภาพและความเสถียรของปุ๋ยเท่านั้น แต่ยังปรับปรุงความปลอดภัยและประสิทธิภาพในที่ทำงานให้ดีขึ้นอีกด้วย การจัดการการจัดเก็บที่ดีเป็นสิ่งที่บริษัทผลิตและจำหน่ายปุ๋ยทุกแห่งควรใส่ใจและนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและได้เปรียบทางการแข่งขัน