เม็ดแอมโมเนียมซัลเฟตใช้กันอย่างแพร่หลายในเกษตรอินทรีย์เป็นปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง หน้าที่หลักคือปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชผลอย่างมีสุขภาพดี นอกจากนี้ อนุภาคแอมโมเนียมซัลเฟตยังสามารถปรับปรุงสมดุลกรด-ด่างของดินได้ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการปรับปรุงดินที่เป็นกรด ต่อไปนี้คือการใช้งานเฉพาะของเม็ดแอมโมเนียมซัลเฟตในเกษตรอินทรีย์
เม็ดแอมโมเนียมซัลเฟตอุดมไปด้วยไนโตรเจน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช การใช้เม็ดแอมโมเนียมซัลเฟตในการทำเกษตรอินทรีย์สามารถปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินได้อย่างมีนัยสำคัญ จึงทำให้มีสารอาหารเพียงพอสำหรับพืช การใช้ปุ๋ยไนโตรเจนอย่างเหมาะสมสามารถส่งเสริมการสังเคราะห์แสงของพืช เพิ่มปริมาณคลอโรฟิลล์ และทำให้พืชเจริญเติบโตแข็งแรง
พืชผลมีความต้องการไนโตรเจนสูงในช่วงการเจริญเติบโต อนุภาคแอมโมเนียมซัลเฟตสามารถตอบสนองความต้องการในการเจริญเติบโตและการพัฒนาของพืชผลได้โดยการปล่อยไนโตรเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเจริญเติบโตที่สำคัญ อนุภาคแอมโมเนียมซัลเฟตสามารถส่งเสริมการพัฒนาของระบบรากพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับปรุงความต้านทานโรคพืช และบรรลุเป้าหมายในการให้ผลผลิตสูงและคุณภาพสูงในที่สุด
หลังจากที่อนุภาคแอมโมเนียมซัลเฟตสลายตัวในดินแล้ว อนุภาคเหล่านี้จะผลิตสารที่มีฤทธิ์เป็นกรดบางชนิด ซึ่งมีผลดีต่อการปรับปรุงสมดุลกรด-ด่างของดิน การปรับปรุงดินที่เป็นกรดนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยสามารถเพิ่มค่า pH ของดินและทำให้สภาพแวดล้อมของดินเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชมากขึ้น
เกษตรกรอินทรีย์สามารถเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืชผลได้โดยใช้เม็ดแอมโมเนียมซัลเฟตอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ อนุภาคแอมโมเนียมซัลเฟตยังช่วยส่งเสริมการทำงานของจุลินทรีย์ในดิน ปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน และบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืนได้ ซึ่งยังมีความสำคัญในเชิงบวกต่อการปกป้องสิ่งแวดล้อมทางนิเวศวิทยาในเกษตรอินทรีย์อีกด้วย
โดยสรุป การใช้อนุภาคแอมโมเนียมซัลเฟตในเกษตรอินทรีย์เป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการพัฒนาการผลิตทางการเกษตรที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน เกษตรกรสามารถบรรลุผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพสูงและจัดหาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีคุณภาพสูงกว่าให้กับตลาดได้ผ่านการใส่ปุ๋ยทางวิทยาศาสตร์และการใช้อนุภาคแอมโมเนียมซัลเฟตอย่างมีเหตุผล